10 ธันวาคม 2555

จับหนุ่มเดนคุกต้องสงสัยร่วมแก๊ง รุมทำร้าย2หนุ่มรัสเซียบาดเจ็บเลือดอาบริมหาดพัทยา


 2 หนุ่มรัสเซียโดนแก๊งคนไทยพยายามชิงทรัพย์และรุมทำร้ายจนบาดเจ็บเลือดอาบริมชายหาดพัทยา   ตร.ตามหนุ่มเดนคุกต้องสงสัยร่วมกับเพื่อนร่วมแก๊งก่อเหตุเอาไว้ได้  ผู้เสียหายยืนยันเป็น1ในกลุ่มคนร้าย แต่เจ้าตัวยังให้การปฎิเสธไม่ได้ก่อเหตุสารภาพอดีตเคยติดคุกทั้งคดีฆ่าและพกปืนแต่พ้นโทษมานานแล้วแต่ยอมรับว่าเสพยามา
 เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 7 ธ.ค. 55  ร.ต.อ.ยงยุทธ หวานเหนือ รอง สวป.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติถูกทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ2รายเหตุเกิดที่บริเวณริมชายหาดพัทยาใกล้เคียงสะพานปลาเก่าก่อนถึงถนนวอล์คกิ้งสตรีท โดยผู้บาดเจ็บวิ่งมาขอคามช่วยเหลือจากประชาชนอยู่ที่บริเวณวินจักรยานยนต์รับจ้างหน้าพัทยาเบย์วอล์ค ริมถนนเลียบชายหาดพัทยา ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ หลังรับแจ้งจึงรีบนำกำลังไปตรวจสอบ
          เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชายสัญชาติรัสเซียจำนวน 2รายทราบชื่อต่อมาคือMR.STAS  TROYAN อายุ 18 ปี   MR.MAYIM  ELECHOV อายุ 33 ปี  ทั้งซึ่งผู้บาดเจ็บทั้ง2นั้นอยู่ในอาการเมาสุราและมีบาดแผลถูกทำร้ายด้วยของแข็ง ซึ่งMR.STAS  TROYAN มีบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณที่ใบหน้ากลางศีรษะและใบหูเลือดอาบหน้าและตามร่างกายมีอาการบวมช้ำ ส่วน MR.MAYIM  ELECHOV มีบาดแผลฉีกขาดที่บริเวณใบหน้าและบวมช้ำตามร่างกายเล็กน้อย โดยทั้ง2นั้นได้มาขอความช่วยเหลือวินจักรยานยนต์รับจ้างให้ช่วยแจ้งตำรวจและให้ช่วยพาส่งโรงพยาบาล สอบถามผู้บาดเจ็บทั้ง2คนให้การด้วยอาการเมาสุราและพูดภาษาอังกฤษได้เล็กน้อยแจ้งว่าได้พากันไปดื่มเที่ยวภายในผับย่านถนนวอล์คกิ้งสตรีท หลังจากนั้นก็เดินออกมาเที่ยวที่ริมชายหาดกันต่อโดยมานั่งดื่มเหล้ากันริมชายหาดบริเวณสะพานปลาเก่า จากนั้นได้มีชายไทยวัยรุ่น2-3คนมาตีสนิทขอนั่งดื่มเหล้าด้วย ก่อนที่จะฉวยโอกาสกระชากสร้อยคอทองเคของผู้บาดเจ็บทั้ง2คนจนสร้อยนั้นขาดแต่ผู้บาดเจ็บทั้ง2คนต่อสู้เพื่อแย่งเอาสร้อยคอกลับคืนมาได้แต่ก็ถูกชายไทยวัยรุ่นทั้ง3คนรุมทำร้ายจนบาดเจ็บก่อนที่ทั้ง3คนจะแยกย้ายกันหลบหนีไป ส่วนผู้บาดเจ็บทั้ง2คนก็วิ่งหนีมาขอความช่วยเหลือจากวินจักรยานยนต์รับจ้างดังกล่าว  ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯพัทยามาปฐมพยาบาลให้กับผู้บาดเจ็บทั้ง2คนพร้อมกับสอบถามพยานแวดล้อมที่อาจจะเห็นเหตุการณ์เพื่อเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ แต่ก็ไม่มีผู้ใดให้ความร่วมมือในการแจ้งเบาะแสแต่อย่างใด  ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันสอบถามผู้บาดเจ็บเพื่อสอบถามรูปพรรณของคนร้ายที่ก่อเหตุซึ่งผู้บาดเจ็บก็แจ้งด้วยอาการเมาสุราว่าจำได้แค่ว่าคนร้ายนั้นเป็นกลุ่มชายไทยวัยรุ่นจำนวน3คนเท่านั้น
          ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังออกติดตามจับกุมตัวของคนร้ายทีก่อเหตุจนกระทั่งพบตัวชายต้องสงสัยจำนวน1คน ทราบชื่อต่อมาคือ นายมารุต จันทร์หอม หรือรุจ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 ม.10 ต.ซับสมบูรณ์ อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ กำลังเดินอยู่บริเวณปากทางซอย13/3 ด้านถนนพัทยาสายสอง ซึ่งน่าจะเป็นหนุ่มในกลุ่มของคนร้ายที่ก่อเหตุเนื่องจากตรวจค้นในตัวนั้นพบว่ามีการนำบัตรประชาชนผู้อื่นมาพกติดตัวไว้และพกสนับมือพกอยู่ในกระเป๋า1อันและมีร่องรอยถลอกตามมือคล้ายกับเพิ่งต่อสู้กับใครมาและยังมีลายสักเต็มตัว  แต่สอบถาม นายมารุต  อ้างว่าไม่ได้ก่อเหตุทำร้ายใครมากำลังจะไปหาแฟน แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ปักใจเชื่อ จึงนำตัวชายมารุต ชายต้องสงสัยรายนี้ไปให้ผู้เสียหายดูตัวว่าเป็นคนร้ายที่ก่อเหตุหรือไม่ 
เมื่อนำตัวมาให้ผู้เสียหายดูเมื่อผู้เสียหายทั้ง2คนดูก็ยังลังเลไม่ค่อยแน่ใจว่า นายมารุต เป็นคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่เนื่องจากตอนเกิดเหตุนั้นชุนละมุน แต่หลังจากดูให้แน่ใจอีกครั้งทั้ง2คนก็ยืนยันว่า นายมารุต นั้นเป็น1ใน3คนร้ายที่ร่วมก่อเหตุจริงแต่ นายมารุต นั้นก็ยังให้การปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นคนร้ายหรือร่วมกับกลุ่มคนร้ายก่อเหตุในครั้งนี้แต่อย่างใด  อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของ นายมารุต เนื่องจากผู้เสียหายนั้นให้การยืนยันว่าเป็นคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุจริง จึงนำตัวไปทำการสอบสวนและตรวจสอบประวัติ ก็พบว่านายมารุต เคยมีประวัติ ติดคุกในคดีฆ่าและคดีพกอาวุธปืนมาหลายครั้ง และสอบถามนายมารุต ก็ให้การรับสารภาพว่าตนเสพยาเสพติดมาด้วยแต่ยังให้การยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ อย่างไรก็ตามผู้เสียหายก็ยังให้การยืนยันว่านายมารุต เป็นคนร้ายที่ร่วมกับพวกที่หลบหนีอีก2คนก่อเหตุพยายามจะชิงเอาสร้อยคอและก่อเหตุทำร้ายจนผู้เสียหายบาดเจ็บจริง จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
รายงานโดย..คัมภีร์ อาบสุวรรณ์  *086-1499878

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น