ศรีราชา - การศึกษาออกแบบทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 เป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ด้านองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นย้ำศูนย์บริการประชาชน ควรหาพื้นที่ที่เหมาะสม หวั่นเกิดผลกระทบในอนาคต
วันที่ 5 ก.ค.55 ที่ห้องประชุม ชั้น 2 เทศบาลนครแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายอดุลย์ เชาว์วาทิน ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 12 เป็นประธานการประชุมสรุปผลการศึกษาโครงการสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ทางแยกต่างระดับหนองขาม-ทางแยกต่างระดับแหลมฉบัง และออกแบบปรับปรุงทางหลวงพิเศษ หมายเลข 7 สายชลบุรี-พัทยา ซึ่งมีองค์กรภาคเอกชน, หน่วยงานรัฐ และประชาชนเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีนายนรินทร์ ศรีสมพันธ์ วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ พร้อมผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆร่วมประชุม
นายอดุลย์ กล่าวว่า ปัจจุบัน อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศมีอัตราสูงอย่างรวดเร็ว เป็นผลให้ปริมาณจราจรบนทางหลวงสายหลักมีความแออัด และหนาแน่น ดังนั้น ทางกรมทางหลวงจึงได้นำระบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองเข้ามาพัฒนา เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเดินทาง และขนส่งสินค้า
โดยโครงการสำรวจและออกแบบทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 ทางแยกต่างระดับหนองขาม-ทางแยกต่างระดับแหลมฉบัง และออกแบบปรับปรุงทางหลวงพิเศษ หมายเลข 7 สายชลบุรี-พัทยา มีระยะทางประมาณ 58 กิโลเมตร เป็นโครงข่ายทางหลวงสำคัญที่รองรับการเดินทางท่องเที่ยว การขนส่งสินค้าไปยังต่างประเทศ และการเดินทางมายังท่าเรือแหลมฉบัง นอกจากนั้น ยังเชื่อมโยงพื้นที่ภาคกลาง และพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกของประเทศกัมพูชาที่ด่านอรัญประเทศ
นายอดุลย์ กล่าวต่อไปว่า จากการดำเนินการสำรวจออกแบบโครงการดังกล่าวนั้น ทางกรมทางหลวง และหน่วยงานที่รับผิดชอบได้แจ้งข้อมูลข่าวสารต่อประชาชน ตลอดจนรับฟังข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะ เพื่อนำมาเป็นแนวทางประกอบการศึกษาออกแบบโครงการ ให้มีความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพต่อไป
ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทฯ ที่ปรึกษาในการสำรวจและออกแบบรายละเอียดก่อนนำไปดำเนินการก่อสร้าง เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ดีนั้น จะต้องคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนผู้ใช้เส้นทาง และประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ โดยจะควบคุมให้เกิดผลกระทบต่อสังคม และสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด หลังจากนี้ เมื่อแบบเสร็จเรียบร้อยก็จะเร่งดำเนินการก่อสร้างต่อไป
ด้านนายเรวัติ เชียวสนิท รองนายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง กล่าวถึงแผนงานในโครงการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ซึ่งจะมีการก่อสร้างศูนย์ให้บริการประชาชน หรือศูนย์พักรถยนต์ทุกประเภท บริเวณใกล้เนินแม่กิมบ๊วย หรือบริเวณใกล้เคียงสวนผีเสื้อนั้น ขอให้ทางบริษัทฯ ที่ปรึกษา หรือกรมทางหลวงพิจารณาพื้นที่ที่ใช้ในการก่อสร้างศูนย์บริการดังกล่าว เพราะหวั่นจะเกิดปัญหา หรือผลกระทบในภายหลัง
สำหรับจุดการก่อสร้างดังกล่าว เป็นจุดรวมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งห้องน้ำ, ร้านอาหาร, ศูนย์การค้า และลานจอดรถ ซึ่งใช้พื้นที่ประมาณ 50-100 ไร่ อาจจะมีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม เหมือนเช่นศูนย์บริการบางปะกง โดยอาจจะไม่เป็นที่ยอมรับของประชาชนในพื้นที่ได้ ดังนั้น ควรจะจัดหาพื้นที่ที่เหมาะสมกว่านี้ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นได้ หากประชาชนส่วนใหญ่ไม่ต้องการ
ข้อมูลจากผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น