ชลบุรี - ผู้ประกอบการขนส่งออกแถลงการณ์ เร่งท่าเรือแหลมฉบัง แก้ปัญหารถติดหลังรับปากแล้ว เผยหากไม่ดำเนินการอะไรในช่วง 1-2 สัปดาห์นี้ เตรียมใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดต่อไป
วันที่ 11 พ.ค.55 ที่ทำการชมรมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายสงบ กิ่งทอง ประธานชมรมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง พร้อมสมาชิกชมรมฯ ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ถึงปัญหาที่ชมรมฯ ได้ยื่นเรื่องต่อรัฐบาลผ่านสื่อมวลชน ถึงปัญหาความเดือดร้อนจากการจราจรติดขัดอย่างมากภายในและภายนอกบริเวณท่า เรือแหลมฉบัง ซึ่งเกิดปัญหามาเป็นเวลานาน
ล่าสุด พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงมาร่วมแก้ไขปัญหา โดยมีการประชุมหารือกับ 4 หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย ท่าเรือแหลมฉบัง ศุลกากร ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ และสมาชิกผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง เข้าร่วมประชุมเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาในการประชุมร่วมนานกว่า 3 ชั่วโมง
ในที่ประชุมได้ข้อสรุปพร้อมมีมติที่ต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่าง เร่งด่วน โดยเฉพาะท่าเรือแหลมฉบัง คือ 1.จะต้องยกเลิกการชำระเงินค่าผ่านท่า ด้วยระบบ E -Toll ออกไปจนกว่าการท่าเรือจะดำเนินการแก้ไขวิธีการและข้อบกพร่องให้มี ประสิทธิภาพ และเป็นที่ยอมรับจากผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ใช้บริการ 2.ยกเลิกการชั่งน้ำหนักและเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าชั่งน้ำหนัก ตู้สินค้าขาออกจากท่าเรือ 30 บาททันที
3.จากกรณีรถติดหน้าท่าเทียบเรือ Terminal อันเกิดจากความแออัดในท่าเทียบเรือระหว่างการให้บริการเรือ การท่าเรือได้เสนอแนะและรับปากที่จะจัดหาสถานที่ และดำเนินการยกตู้สินค้าส่งออกลงจากรถเทรลเลอร์ เพื่อดำเนินการส่งต่อไปยังท่าเทียบเรือที่รับและเกี่ยวข้องต่อไป โดยมิให้รถเทรลเลอร์ต้องจอดรถและผู้ประกอบการขนส่งไม่ต้องรับภาระหน้าที่ใน การขนย้ายภายหลัง และ 4.การท่าเรือจะจัดทำโครงการเพิ่มช่องเส้นทาง และประตูเข้า-ออกทั้ง 3 ช่องทางให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น โดยเป็นโครงการให้แล้วเสร็จภายในปี 2557
นายสงบ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในส่วนของศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ที่ต้องดำเนินการ คือ 1.ปรับแก้ไขระเบียบให้สอดคล้องกับการดำเนินการแก้ไขการเดินรถ ของการท่าเรือข้างต้น 2.เลิกเรียกเก็บเงิน 100 บาท โดยไม่มีใบเสร็จที่ประตู 1 (Checking Port ประตู 1) จากผู้ประกอบการขนส่ง โดยอ้างสาเหตุขนส่งผ่านประตูขาออก ประตู 1 นอกเวลาราชการ หรือหมดเวลาที่ขออนุมัติและชำระค่าล่วงเวลา
ทั้งที่ให้ถือเอาแต่ละเขต Terminal เป็นเขตตรวจปล่อยสินค้าตามระเบียบถือการหมดเวลาอนุมัติล่วงเวลา ตามที่ขอโดยใช้เวลายื่นขอรับตู้สินค้าของแต่ละท่าเทียบเรือ Terminal เป็นเกณฑ์ ซึ่งตู้สินค้าที่ไม่ได้ขอล่วงเวลา หรือระยะเวลาที่ขอขนสิ่งทางเจ้าหน้าที่ประจำ Terminal จะไม่ยกตู้ให้ จนกว่าจะได้ดำเนินการให้ผู้นำเข้าหรือตัวแทนมาติดต่อชำระค่าล่วงเวลาก่อน ขอให้ผู้ประกอบการขนส่งใส่ใจการจ่ายค่าล่วงเวลาศุลกากรเป็นเรื่องของการ เรียกเก็บจากผู้นำเข้า-ส่งออก เท่านั้น ไม่ใช่จากผู้ขนส่ง
ด้านนายอรุณ เอี่ยมฉลาด ที่ปรึกษาชมรมฯ กล่าวว่า 1.ทางชมรมฯเรียกร้องและขอร้องให้ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ใส่ใจในการให้บริการแก่ทุกฝ่าย เช่น บริการยกตู้ลงจากรถขนส่งด้วย ส่วนการจะจัดตารางเวลาการขนส่งตู้เข้าท่าเทียบเรือตามที่จะกำหนดนั้น คงทำได้ยาก เพราะผู้ขนส่งรับบริการตามความต้องการของผู้ส่งออก-นำเข้า ซึ่งถูกกำหนดในเรื่องเวลาไว้ โดยตัวแทนเรือ โดยเป็นผู้ประกอบการเกี่ยวกับท่าเทียบเรืออยู่แล้ว
2.ชมรมฯ เรียกร้องให้การท่าเรือฯ เข้าไปตรวจสอบในฐานะผู้กำกับดูแล พื้นที่สัมปทานที่ได้รับของแต่ละ Terminal ให้เหมาะสมกับปริมาณตู้สินค้าที่เข้า-ออก ตามสัญญาสัมปทานเพื่อป้องกันมิให้เกิดความแออัดอันเป็นเหตุให้ไม่สามารถ บริการตู้จากรถได้
นายอรุณ กล่าวต่อไปว่า จากข้อเรียกร้องตามนั้น ทางชมรมฯ ต้องการให้ท่าเรือแหลมฉบังหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการแก้ไขโดย ด่วน เพราะมีการพูดคุยมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ยังไม่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขอย่างไร และหลังจากออกแถลงการณ์และแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้ว โดยหากภายใน 1-2 สัปดาห์ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทางชมรมฯจะต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดต่อไป
วันที่ 11 พ.ค.55 ที่ทำการชมรมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี นายสงบ กิ่งทอง ประธานชมรมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง พร้อมสมาชิกชมรมฯ ได้ร่วมกันออกแถลงการณ์ถึงปัญหาที่ชมรมฯ ได้ยื่นเรื่องต่อรัฐบาลผ่านสื่อมวลชน ถึงปัญหาความเดือดร้อนจากการจราจรติดขัดอย่างมากภายในและภายนอกบริเวณท่า เรือแหลมฉบัง ซึ่งเกิดปัญหามาเป็นเวลานาน
ล่าสุด พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ลงมาร่วมแก้ไขปัญหา โดยมีการประชุมหารือกับ 4 หน่วยงานหลัก ประกอบด้วย ท่าเรือแหลมฉบัง ศุลกากร ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ และสมาชิกผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง เข้าร่วมประชุมเมื่อวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาในการประชุมร่วมนานกว่า 3 ชั่วโมง
ในที่ประชุมได้ข้อสรุปพร้อมมีมติที่ต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาอย่าง เร่งด่วน โดยเฉพาะท่าเรือแหลมฉบัง คือ 1.จะต้องยกเลิกการชำระเงินค่าผ่านท่า ด้วยระบบ E -Toll ออกไปจนกว่าการท่าเรือจะดำเนินการแก้ไขวิธีการและข้อบกพร่องให้มี ประสิทธิภาพ และเป็นที่ยอมรับจากผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ใช้บริการ 2.ยกเลิกการชั่งน้ำหนักและเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ค่าชั่งน้ำหนัก ตู้สินค้าขาออกจากท่าเรือ 30 บาททันที
3.จากกรณีรถติดหน้าท่าเทียบเรือ Terminal อันเกิดจากความแออัดในท่าเทียบเรือระหว่างการให้บริการเรือ การท่าเรือได้เสนอแนะและรับปากที่จะจัดหาสถานที่ และดำเนินการยกตู้สินค้าส่งออกลงจากรถเทรลเลอร์ เพื่อดำเนินการส่งต่อไปยังท่าเทียบเรือที่รับและเกี่ยวข้องต่อไป โดยมิให้รถเทรลเลอร์ต้องจอดรถและผู้ประกอบการขนส่งไม่ต้องรับภาระหน้าที่ใน การขนย้ายภายหลัง และ 4.การท่าเรือจะจัดทำโครงการเพิ่มช่องเส้นทาง และประตูเข้า-ออกทั้ง 3 ช่องทางให้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น โดยเป็นโครงการให้แล้วเสร็จภายในปี 2557
นายสงบ กล่าวต่อไปว่า สำหรับในส่วนของศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ที่ต้องดำเนินการ คือ 1.ปรับแก้ไขระเบียบให้สอดคล้องกับการดำเนินการแก้ไขการเดินรถ ของการท่าเรือข้างต้น 2.เลิกเรียกเก็บเงิน 100 บาท โดยไม่มีใบเสร็จที่ประตู 1 (Checking Port ประตู 1) จากผู้ประกอบการขนส่ง โดยอ้างสาเหตุขนส่งผ่านประตูขาออก ประตู 1 นอกเวลาราชการ หรือหมดเวลาที่ขออนุมัติและชำระค่าล่วงเวลา
ทั้งที่ให้ถือเอาแต่ละเขต Terminal เป็นเขตตรวจปล่อยสินค้าตามระเบียบถือการหมดเวลาอนุมัติล่วงเวลา ตามที่ขอโดยใช้เวลายื่นขอรับตู้สินค้าของแต่ละท่าเทียบเรือ Terminal เป็นเกณฑ์ ซึ่งตู้สินค้าที่ไม่ได้ขอล่วงเวลา หรือระยะเวลาที่ขอขนสิ่งทางเจ้าหน้าที่ประจำ Terminal จะไม่ยกตู้ให้ จนกว่าจะได้ดำเนินการให้ผู้นำเข้าหรือตัวแทนมาติดต่อชำระค่าล่วงเวลาก่อน ขอให้ผู้ประกอบการขนส่งใส่ใจการจ่ายค่าล่วงเวลาศุลกากรเป็นเรื่องของการ เรียกเก็บจากผู้นำเข้า-ส่งออก เท่านั้น ไม่ใช่จากผู้ขนส่ง
ด้านนายอรุณ เอี่ยมฉลาด ที่ปรึกษาชมรมฯ กล่าวว่า 1.ทางชมรมฯเรียกร้องและขอร้องให้ผู้ประกอบการท่าเทียบเรือ ใส่ใจในการให้บริการแก่ทุกฝ่าย เช่น บริการยกตู้ลงจากรถขนส่งด้วย ส่วนการจะจัดตารางเวลาการขนส่งตู้เข้าท่าเทียบเรือตามที่จะกำหนดนั้น คงทำได้ยาก เพราะผู้ขนส่งรับบริการตามความต้องการของผู้ส่งออก-นำเข้า ซึ่งถูกกำหนดในเรื่องเวลาไว้ โดยตัวแทนเรือ โดยเป็นผู้ประกอบการเกี่ยวกับท่าเทียบเรืออยู่แล้ว
2.ชมรมฯ เรียกร้องให้การท่าเรือฯ เข้าไปตรวจสอบในฐานะผู้กำกับดูแล พื้นที่สัมปทานที่ได้รับของแต่ละ Terminal ให้เหมาะสมกับปริมาณตู้สินค้าที่เข้า-ออก ตามสัญญาสัมปทานเพื่อป้องกันมิให้เกิดความแออัดอันเป็นเหตุให้ไม่สามารถ บริการตู้จากรถได้
นายอรุณ กล่าวต่อไปว่า จากข้อเรียกร้องตามนั้น ทางชมรมฯ ต้องการให้ท่าเรือแหลมฉบังหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งดำเนินการแก้ไขโดย ด่วน เพราะมีการพูดคุยมานานกว่า 1 สัปดาห์แล้ว ยังไม่เห็นมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขอย่างไร และหลังจากออกแถลงการณ์และแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบแล้ว โดยหากภายใน 1-2 สัปดาห์ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ทางชมรมฯจะต้องใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดต่อไป
ข้อมูลจาก...ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น