แคชเชียร์ร้านซีฟู๊ดพัทยา โร่แจ้งตำรวจช่วยจับหนุ่มซีเรีย แฝงตัวเป็นลูกค้าออกอุบายขอแลกเงินก่อนฉวยโอกาสฉกเงินจากร้านไปกว่า2หมื่นแล้วซิ่งเก๋งหนี ตร.ช่วยสกัดจับตัวไว้ได้ แต่ยังให้การภาคเสธ
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 8 เมษายน 2555 นายวรวิทย์ ดินราบรัมย์ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/549 ม.5 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พนักงานตำแหน่งผู้จัดการประจำร้านอัมพรซีฟู๊ด ย่านถนนสายสามพัทยาเหนือ พร้อมด้วย นายสุวิทย์ สวยงาม อายุ 23 ปี ตำแหน่งแคชเชียร์และพนักงานเสริฟในร้านเดียวกันรวม4คน เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ช่วงโชติ มงคลธนายุทธ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เพื่อให้ช่วยตามจับกุมตัวคนร้ายเป็นชายต่างก่อเหตุขโมยเงินสดจากร้านไปจำนวน 23,000 บาท
สอบถามนายวรวิทย์ ผู้จัดการประจำร้านอัมพรซีฟู๊ด เล่าว่าก่อนเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณก่อนเที่ยงคืน ได้มีชายต่างชาติจำนวน1คนเข้ามาใช้บริการในร้านโดยสั่งเบียร์ดื่มไป1ขวดจากนั้นได้ออกอุบายว่าจะติดต่อสั่งจองโต๊ะหลายสิบโต๊ะพร้อมอาหารและเครื่องดื่มเนื่องจากจะพาเพื่อนๆมาทานอาหารที่ร้านแต่เมื่อถามเสร็จก็ยังไม่ได้ตกลงว่าจะมาหรือไม่ แล้วชายต่างชาตอดังกลางก็นำเงินจำนวน20ดอลร์ล่าร์ มาของแลกเมื่อแลกเสร็จก็ นำเงินธนบัตรจำนวน1,000บาทจำนวน1ใบมาขอแลกเปลี่ยนอีกโดยอ้างว่าอยากจะให้ตนหาธนบัตรใบละ1,000บาท จำนวน 2 ใบที่มีตัวอักษรที่ต้นต้นด้วยตัวแอลมาแลกเปลี่ยนกันเพราะจะเอาธนบัตรที่มีตัวอักษรขึ้นต้นด้วยตัวแอลไปฝากเป็นของขวัญให้กับเพื่อนร่วมชาติพร้อมกับให้เงินทริปคนละ20บาทให้กับตนกับเพื่อนๆที่ทำงานอยู่ในร้านเพื่อให้ช่วยหาให้ ตนกับเพื่อนคิดว่าชายต่างชาติดังกล่าวอยากจะได้จริงๆจึงนำเงินที่อยู่ในเค้าเตอร์แคชเชียร์ที่มีธนบัตรใบละ1,000บาทเพื่อมาหาดูตัวอักษรที่ขึ้นต้นด้วยตัวแอลมาให้ชายต่างชาติดังกล่าวแลกเปลี่ยนโดยไม่ได้เอะใจอะไรและให้ชายต่างชาติดังกล่าวช่วยหาแต่เมื่อนำเงินออกมากองแล้วช่วยกันตรวจหาตัวอักษรแอลอยู่พักใหญ่ก็ไม่มี ชายต่างชาติดังกล่าวก็บอกว่าไม่เป็นไรและชายต่างชาติดังกล่าวก็ช่วยหยิบเงินทั้งหมดที่นับออกมาช่วยกันนับและตรวจหาอยู่ซึ่งมีอยู่ประมาณกว่า50,000บาทส่งคืนให้ตนแต่ตนก็ไม่ได้ตรวจดูอย่างถ้วนถี่กว่าครบหรือไม่เพราะเผลอเลอเมื่อนำเงินเก็บเสร็จ ชายต่างชาติก็รีบเดินออกจากร้านด้วยความรีบร้อน ตนกับเพื่อนๆเกิดความสงสัยจึงนำเงินออกมาตรวจสอบดูอีกทีก็พบว่าเงินหายไปจำนวน 23,000 บาท เชื่อว่าถูกชายต่างชาติดังกล่าวขโมยไปอย่างแน่นอน พวกตนจึงรีบช่วยกันตามหาชายต่างชาติดังกล่าวแต่ชายต่างชาติดังกล่าวนั้นไหวตัวรีบหนีออกจากร้านโดยขับขี่รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาวหมายเลขทะเบียน กบ-679 ระยอง ด้วยความเร็วออกจากร้านและเกิดเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ของลูกค้าที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถจนรถจักรยานยนต์พังเสียหายไป1ค้นและรถยนต์เก๋งของชายต่างชาติก็เป็นรอยที่บริเวณกันชนหน้าใต้ไฟหน้ารถด้านซ้ายแต่ก็ไม่ยอใจอดรถได้ขับขี่หลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนพัทยากลาง ตนกับเพื่อนที่เห็นเหตุการณ์ได้ช่วยกันโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้ช่วยติดตามสกัดจับแต่ก็ไม่พบ จึงแจ้งให้เจ้าของร้านให้ทราบเรื่องและพากันมาแจ้งความให้ตำรวจช่วยเหลือเนื่องจากเงินที่ถูกชายต่างชาติขโมยไปนั้นเป็นจำนวนมากถึง 23,000 บาทหากจับกุมไม่ได้พวกตนทั้ง4คนจะต้องโดนหักเงินเดือนและช่วยกันชดใช้เงินให้กับทางร้าน
หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงบันทึกไว้เป็นหลักพร้อมกับแจ้งตำรวจสายตรวจในพื้นที่เมืองพัทยาและพื้นที่ใกล้เคียงช่วยกันตรวจสอบจับกุมตัวชายต่างชาติที่ก่อเหตุซึ่งกลุ่มผู้เสียหายระบุจำได้ชัดเจนว่าคนร้ายขับขี่รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีออส สีขาวหมายเลขทะเบียน กบ-679 ระยอง และบริเวณหน้ารถนั้นก็ร่องรอยการเฉี่ยวชน กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจพบผู้ก่อเหตุขับรถยนต์เก๋งคันดังกล่าววนเวียนอยู่บริเวณเขาพระตำหนักจึงสกัดจับกุมแต่ชายต่างชาติที่ขับขี่รถพยามหลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนพัทยาใต้แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันไล่สกัดจับกุมตัวไว้ได้บริเวณแยกไฟแดงถนนสายสามพัทยาใต้
สอบสวนชายต่างชาติคนขับรถทราบชื่อคือ นายมูฮัมหมัด อับดุลการีม (MR.ABDLKARIM MOHAMAD) อายุ 35 ปี สัญชาติซีเรีย ให้การโวยวายว่าไม่ได้ก่อเหตุใดมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอตรวจค้นตัวและภายในรถเพื่อหาสิ่งผิดกฎหมายและตรวจสอบในกระเป๋าเงินก็พบเงินสดเป็นธนบัตรใบละ1,000บาทรวมทั้งหมดจำนวน 19,000 บาทและพบว่ามีร่องรอยการเฉี่ยวชนที่ด้านหน้ารถตรงกับผู้เสียหายแจ้งไว้ชัดเจน จึงได้นำตัวนายมูฮัมหมัด อับดุลการีม มายัง สภ.เมืองพัทยา เพื่อให้ผู้เสียหายดูตัว โดยผู้เสียหายชี้ตัวยืนยันว่านายมูฮัมหมัด อับดุลการีม เป็นผู้ก่อเหตุจริงพร้อมกับแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเนื่องจากพฤติกรรมนั้นน่าจะก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวนี้บ่อยครั้ง เบื้องต้นนายมูฮัมหมัด อับดุลการีม ยังให้การภาคเสธ อ้างว่าเข้าไปใช้บริการในร้านและขอแลกเงินจริงแต่ไม่ได้ขโมยเงินจากร้านมาตามที่ผู้เสียหายแจ้ง ส่วนเงินของตนที่อยู่ในตัวจำนวน 19,000 บาท นั้นตนแลกมาจากบู๊ทแลกเงินนานแล้วเพื่อจะเอาไว้ใช้ อย่างไรก็ตามทางผู้เสียหายมีพยานยืนยันหลายปาก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวนายมูฮัมหมัด อับดุลการีม โดยแจ้งข้อ “หาลักทรัพย์ผู้อื่น” และจะทำการสอบสวนก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป..
รายงานโดย...คัมภีร์ อาบสุวรรณ์ *086-1499878/พัทยา ชลบุรี



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น