ตร.สภ.บางละมุง ตั้งด่านป้องกันเหตุให้กลุ่ม นปช.ชุมนุมใหญ่ ในเมืองพัทยา พบหนุ่มใหญ่ซุกปืนในรถ คุมตัวไปดำเนินคดี หลังถูกจับเรียกเพื่อนมาขอเคลียร์อวดอ้างเป็น DSI ดูแลภาคตะวันออก อวดเบ่งใหญ่โตแถมคุกคามไล่นักข่าวไม่ให้ถ่าย
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 24 มี.ค. 55 ร.ต.อ.ลัทธิพล รอดเงิน รอง สวป. สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมกำลังตำรวจและตำรวจอาสา ร่วมกันจับกุมตัว นายสัมฤทธิ์ การเจริญดี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56/9 ม.6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อมของกลางอาวุธปืนพกสั้นแบบออโตเมติก ขนาด .45 มม. ยี่ห้อ คิมเบอร์ จำนวน 1 กระบอกพร้อมแม็กกาซีนใส่กระสุนปืนและเครื่องกระสุนปืนจำนวน5นัด ควบคุมตัวมาสอบสวนและดำเนินคดีที่ ตู้ยามเขาตาโล
ร.ต.อ.ลัทธิพล รอดเงิน รอง สวป. สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี เปิดเผยว่าได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ให้นำกำลังตำรวจและตำรวจอาสา ร่วมกันตั้งด่านตรวจที่บริเวณถนนเลียบทางรถไฟซอยเขาตาโล เพื่อป้องกันเหตุและอำนวยความสะดวกในการจราจรให้กับประชาชนที่มาร่วมการชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม นปช. ซึ่งตั้งเวทีชุมนุมใหญ่อยู่บริเวณลานกว้างหน้าปากซอยเขาตาโล โดยระหว่างที่เรียกตรวจค้นรถยนต์และรถจักรยานยนต์รวมถึงตัวบุคคลที่ต้องสงสัยอาจจะซุกซ่อนยาเสพติดผิดกฎหมายและอาวุธปืน ก็พบนายสัมฤทธิ์ (ผู้ต้องหา) ขับขี่รถยนต์ส่วนตัวมาถึงด่านตรวจและไม่ยอมจอดรถให้ตรวจค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดตามและสามารถจับกุมตัวไว้ได้บริเวณถนนเลียบทางรถไฟซอยหนองกระบอก ตรวจค้นก็พบว่านายสัมพฤทธิ์ (ผู้ต้องหา) พกอาวุธปืนไว้ในรถจึงจับกุมตัว ระกว่างที่ทำการตรวจสอบและจับกุมนั้น นายสัมฤทธิ์ (ผู้ต้องหา) อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) และพูดจาอวดเบ่งต่างๆนานาพร้อมกับโทรศัพท์แจ้งให้เพื่อนๆซึ่งอ้างตัวว่าเป็นอาสา ดีเอสไอ มาช่วยเหลือเพื่อและพยายามขอเคลียร์ไม่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาให้ทราบเรื่องทางผู้บังคับบัญชาแจ้งว่าต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดเนื่องจากไม่ใช่เจ้าหน้าที่หรือพนักงานของรัฐที่ได้รับอนุญาตพกอาวุธปืนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การพกอาวุธปืนของนายสัมฤทธิ์ (ผู้ต้องหา) จึงเป็นสิ่งผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมและควบคุมตัวนายสัมฤทธิ์ (ผู้ต้องหา) มาสอบสวน และตรวจสอบพบว่าอาวุธปืนดังกล่าวมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งดำเนินคดีนายสัมฤทธิ์ (ผู้ต้องหา) ในข้อหา “พกอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างที่ผู้สื่อข่าวเดินทางไปทำข่าวการจับกุม ได้มีกลุ่มเพื่อนๆของ ผู้ต้องหาซึ่งอวดอ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ เป็นชายฉกรรจ์มากกว่า5คน ซึ่งส่วนใหญ่นั้นหน้าตาคุ้มเคยว่าเป็น อปพร.อำเภอบางละมุง และเป็นอาสา ดีเอสไอ อยู่ในพื้นที่เมืองพัทยาได้พยายามไล่ไม่ให้ผู้สื่อข่าวทำข่าวและพูดจาคุกคามผู้สื่อข่าวอวดเบ่งว่ากลุ่มตัวเองเป็น ดีเอสไอ ดูแล 8 จังหวัด ทั่วภาคตะวันออก ทำให้ผู้สื่อข่าวตกเกิดความสงสัยว่าทำไมกลุ่มเพื่อนๆของผู้ต้องหาอวดเบ่งใหญ่โตกันเพราะสาเหตุใด แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเนื่องจากทำตามหน้าที่ในการทำข่าวเพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงต่อประชาชน แต่หลังจากที่กลุ่มเพื่อนๆของผู้ต้องหาเห็นผู้สื่อข่าวทำข่าวก็แสดงอาการไม่พอใจพากันมารวมตัวอีกหลายคน ทำให้ผู้สื่อข่าวต้องรีบทำข่าวและเดินทางกลับทันที โดยผู้สื่อข่าวไม่กล้าที่จะถ่ายภาพของกลุ่มเพื่อนๆของผู้ต้องหาที่พูดจาอวดเบ่งว่าเป็น ดีเอสไอ เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัยในขณะทำงาน...
รายงานโดย...คัมภีร์ อาบสุวรรณ์ *086-1499878/พัทยา ชลบุรี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น